กระจกที่ใช้กับกรอบบานอะลูมิเนียม



          กระจกมีหน้าที่สำคัญสำหรับกั้นแบ่งสองพื้นที่ออกจากกัน แต่ในขณะเดียวกัน คุณสมบัติความโปร่งใสหรือโปร่งแสงของกระจกก็เป็นเหมือนกับการหยิบยืมบรรยากาศของฝั่งตรงข้ามมาใช้งาน กระจกจึงมีส่วนสำคัญกับคอนเซ็ปต์ “Inside Out-Outside In” หรือการดึงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามาเป็นวิวของบ้าน และทำให้ภายในบ้านเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศภายนอก

          หากแต่เบื้องหลังกระจกใสยังมีคุณสมบัติที่แตกต่าง ซึ่งเกิดขึ้นจากนวัตกรรมการพัฒนาวัสดุเพื่อให้ตอบสนองต่อการใช้งานและรูปลักษณ์ที่ผู้ใช้งานต้องการ ซึ่งกรอบบานอะลูมิเนียมก็เป็นหนึ่งในวัสดุยอดนิยมสำหรับติดตั้งเป็นกรอบบานหน้าต่างและประตูของบ้าน ด้วยข้อดีมากมายทั้งเรื่องความทนทานและความสวยงาม การเลือกกระจกใช้งานให้เหมาะสมกับบานกรอบอะลูมิเนียมจึงเป็นเหมือนกับการจับคู่อย่างไรให้ลงตัว เพื่อให้ช่องเปิดนี้มีดีไซน์และใช้งานได้ดีตลอดอายุการใช้งาน

กระจกเทมเปอร์ : Tempered Glass

          เป็นกระจกที่พัฒนาความแข็งแกร่งให้มากกว่ากระจกธรรมดาซึ่งเกิดจากการสร้างแรงอัดให้กับผิวของกระจกแล้วให้ความเย็นอย่างรวดเร็วทำให้ผิวภายนอกสามารถต้านแรงกระทำได้มากกว่าเดิมและแข็งแรงขึ้น 4 เท่า แต่หากโดนแรงกระแทกจนแตกแล้วกระจกเทมเปอร์จะแตกแบบละเอียดทั้งแผ่น ไม่ใช่แบบรอยร้าวเหมือนกระจกทั่วไป การเลือกใช้กระจกเทมเปอร์มีข้อควรรู้คือ ควรวัดขนาดที่ต้องการใช้งานให้เรียบร้อยก่อนสั่งผลิต เพราะกระจกที่ผ่านกระบวนการเทมเปอริงแล้วจะไม่สามารถถูกตัดหรือกระแทกได้อีก

กระจกลามิเนต : Laminated Glass

          เกิดจากการนำกระจกสองชิ้นมาประกบกันด้วย Polyvinyl Butyral (PVB) ซึ่งเป็นแผ่นฟิล์มที่ทำให้กระจกยึดเกาะกันได้สูงและใสเป็นพิเศษ ซึ่งข้อดีของฟิล์มตัวนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดกระจกแตก แผ่นฟิล์มจะทำหน้าที่ยึดตรึงกระจกไว้ รวมทั้งความพิเศษจากการเป็นกระจกสองชั้น จึงกันเสียงและกันรังสีอัลตราไวโอเล็ตได้ดีกว่ากระจกธรรมดา วิธีการสังเกตกระจกลามิเนตก็คือ ลองพลิกสันของกระจกขึ้นมาดู จะเห็นเป็นกระจกสองแผ่นประกบติดกันแบบแซนด์วิชโดยมีชั้นฟิล์มบางๆ อยู่ตรงกลาง

กระจกอินซูเลต / กระจกสองชั้น : Insulated Glass

          กระจกชนิดนี้เกิดจากกระจกสองชิ้นเช่นเดียวกับกระจกลามิเนต แต่เชื่อมต่อระหว่างกระจกสองแผ่นด้วยช่องว่าง(อากาศแห้ง) หรือก๊าซอาร์กอนซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อย ตรงกลางนี้เองที่ตัวป้องกันการถ่ายเทความร้อนจากกระจกบานหนึ่งไปยังกระจกอีกบาน อากาศภายในอีกด้านจึงมีอุณหภูมิต่ำกว่าภายนอก และเก็บกักรักษาอุณหภูมิภายในได้ดีมาก บางที่จึงอาจเรียกว่า กระจกฉนวนกันความร้อน เพราะช่องว่างตรงกลางซึ่งทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อนให้กับตัวกระจกและบ้าน นอกจากการป้องกันความร้อนแล้ว เสียงก็เป็นสิ่งรบกวนอีกชนิดที่กระจกอินซูเลตสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระจกตัดแสง : Tinted Glass

          ถ้าพูดถึงการทำให้บ้านเย็นลง กระจกตัดแสงน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆของคนไทย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดจึงเป็นการป้องกันและสะท้อนกลับพลังงานแสงอาทิตย์กลับสู่ภายนอก โดยยังคงเปิดรับแสงสว่างให้เข้ามาภายในบ้าน มีสีสันหลากหลายที่เกิดจากการผสมโลหะออกไซด์ไว้ตั้งแต่ระหว่างกระบวนการผลิตกระจก อีกทั้งยังสามารถเลือกระดับการสะท้อนกลับของความร้อนสู่ภายนอก และปริมาณแสงที่ผ่านเข้ามาภายในได้ตามความต้องการอีกด้วย

กระจกสะท้อนแสง : Reflective Glass

          กระจกชนิดนี้เป็นขั้นกว่าของกระจกตัดแสง ซึ่งใช้หลักการเดียวกับกระจกตัดแสง เพียงแต่เปลี่ยนแปลงการเคลือบผิวด้านนอกของกระจกมาเป็นโลหะเงินบริสุทธิ์ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฉนวนกันความร้อนจากพลังงานดวงอาทิตย์ ความพิเศษของกระจกชนิดนี้จึงอยู่ที่การประหยัดพลังงาน เพราะลดความร้อนสะสมภายในตัวบ้าน จึงช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและค่าไฟจากเครื่องปรับอากาศ

ขอขอบคุณข้อมูลความรู้ดี ๆ จาก Desige Something